วันนั้น... ฝนตกพร่ำ ชักนำให้จิตใจของผมพะวงลงห้วงแห่งความเปลี่ยวเหงา... อ้างว้าง และ เดียวดาย
ใต้แสงไฟ ที่ติดๆดับๆ บรรยากาศในซอยเปลี่ยวดูวังเวงนัก ถ้าปราศจากเด็กสาวข้างตัวผม...
ขณะนั้นเอง แสงไฟเริ่มสลัว รอบๆตัวดูมืดมัว แขนทั้งสองของสาวน้อยกอดรัดแขนขวาของผมอย่างแน่น
สายตาของผมค่อยๆพร่ามัว เพราะอะไรนะเหรอ... ? คงมีเหตุผลเดียว ของเหลวสีแดงที่เคยอยู่ในตัวผม
ตอนนี้มันคงเริ่มอพยพย้ายถิ่นฐานกันแล้วละนะ แขนซ้ายของผมก็คงจะปิดปากแผลที่กว้างบริเวณหน้าท้องนี้ไม่ไหวแล้ว
สงสัย... ผมคงจะต้องนอนพักซะบ้าง เผื่ออะไรๆจะดีขึ้น...
โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง
สึคุมิคุง... สึคุมิคุง.... เสียงของเด็กสาวที่เอ่ยทวนชื่อเด็กหนุ่มบนเตียงผ้าสีขาวซ้ำไปซ้ำมา
ทำใจซะเถอะนะหนู...เธอทำได้ดีที่สุดแล้วชายชราในชุดสีขาวสะอาดค่อยๆนำผ้าสีขาวมาบดบังใบหน้าของเด็กหนุ่ม
สึคุมิคุง...เธอเอ่ยทิ้งทวนครั้งสุดท้าย ก่อนที่หยาดน้ำตาใสๆ จะหยดลงบนผ้าขาวก่อนที่เธอจะฟุบลงบนร่างไร้วิญญาณ
คืนนั้นเอง...
ดวงตาของผมค่อยๆเปิดออกก่อนที่จะสะบัดผ้ายสีขาวบนใบหน้าออกด้วยความตกใจ
อะไรกัน... ผมเอ่ยออกมาด้วยความสงสัยพร้อมสำรวจร่างกายที่เปลือยเปล่า มองไปรอบตัวก็พบเพียงความมืดมิด
และก็พบว่าผมอยู่ในห้องๆหนึ่ง ที่เต็มไปด้วยกลิ่นเหม็นซากเน่า สายตาของผมสาดส่องไปทั่วก่อนที่ความสงสัยจะ
แปรเปลี่ยนเป็นความกังวล วิตก
เกิดอะไรขึ้น...ผมค่อยๆเหลียวหลังไปมองบริเวณหัวเตียงที่เคยนอนอยู่ ทุกสิ่งเหมือนจะแถลงไขเมื่อผมพบกับกระดาษ
แผ่นเล็กๆที่มีใจความสั้นๆว่า สึคุมิ ฮายะ เสียชีวิตแล้ว ใจผมตกลงไปยังตาตุ้ม เป็นใครก็ต้องเป็นแบบเดียวกันครับ
นี่ไม่ใช่รายการล้อกันเล่นอะไรแน่นอน เพราะนั่นมันชื่อของผม... สึคุมิ ฮายะ เด็กหนุ่มแสนธรรมดาวัยสิบห้าปี...
ผมเริ่มตั้งสติก่อนที่จะรวบรวมกำลังลุกขึ้นมา และที่ต้องประหลาดใจคือ แผลที่หน้าท้องของผมตอนนี้มันได้ปิดสนิทแล้ว
นั่นเอง ผมสำรวจรอบๆห้องนั่นก่อนจะรู้ว่ามันคือห้องดับจิต ผมจึงต้องรีบย้ายก้นออกมาจากที่นั่นทันที
เวลาขณะนี้คงอยู่ประมาณตีสามกว่า นางพยาบาลและหมอบางส่วนยังคงเดินอยู่รอบๆที่นี่ ผมซึ่งได้ชุดคนไข้จากในห้อง
ดับจิตที่น่าขยะแขยงนั่นมาก็ต้องคอยหลบๆซ่อนๆเพื่อออกไปจากที่นี่ และตามหาสาวน้อยที่จะเอ่ยปากบอกเรื่องราวทั้ง
หมดให้ผมรับรู้ได้... รีช่า วาเลนไทน์
เช้าวันรุ่งขึ้น...
หมอค่ะ ร่างของสึคุมิ ฮายะหายไปค่ะ!! เสียงของพยาบาลสาวที่ดูตกใจดังขึ้นลั่นโรงพยาบาล
และในวันนั้นเรื่องวุ่นวายก็ประสบกับโรงพยาบาลแห่งนี้...ทันที...
หนังสือพิมพ์มากมายลงข่าวเรื่องศพของเด็กหนุ่มหายไปอย่างไม่ทราบสาเหตุ ทางโรงพยาบาลเองก็ไม่สามารถ
หาสาเหตุใดๆได้ แน่นอนเขาคงไม่สามารถนำเหตุผลว่าศพของเด็กหนุ่มหายสาบสูญไปเพราะเวทมนตร์ หรืออะไรก็ตาม
และคำแถลงการณ์ของโรงพยาบาลก็มีเพียงคำว่า... ไม่ทราบครับ
ทางด้านของสึคุมิ
ผมรู้สึกคุ้นเคยกับเส้นทางนี้เป็นอย่างดี ตอนนี้ไม่รู้เพราะอะไร ผมต้องคอยหลบๆซ่อนๆไปทั่ว คงเป็นเพราะความรู้สึกบาง
อย่างที่ส่งผลต่อการกระทำในขณะนี้ว่า อย่าให้ผู้คนรู้ว่าผมคือสึคุมิ ฮายะ ที่เสียชีวิตไปแล้วนั่นเอง... ผมก็ไม่ทราบเหมือน
กันว่าทำไมหมอถึงวินิจฉัยไปเช่นนั้น รู้เพียงว่า ในวูบหนึ่ง ผมได้ไปเยือนยมโลกมาแล้ว...
พญายมไม่ได้ใจดีอย่างที่คุณคิดเท่าไรหรอกนะ ฮะๆ
ผมค่อยๆเดินผ่านซอกมุมตึกสูง บริเวณแถวนี้ดูเสื่อมโทรมเต็มไปด้วยผู้คนที่ไม่มีที่ไป สภาพแวดล้อมเต็มไปด้วยกองขยะ
เศษเหล็กที่ถูกทิ้งจากเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าของสังคมสมัยนี้ ผมทราบดีว่าข่าวสารคงเข้าไปถึงที่ๆนี้แน่นอน ถึงพวกเขาจะ
เก็บหนังสือพิมพ์ขายก็เหอะ พวกเขาคงมี่คิดนำมันมาอ่านหรอกนะ
ผมซึ่งสวมชุดคนไข้สีเขียวอ่อนอยู่ ถ้ามีใครเห็นในเมืองมันคงไม่ต่างจากคนไข้หนีออกมาจากโรงพยาบาลบ้าซักเท่าไร
ในแวบตาหนึ่งผมก็เหลือบไปเห็นชุดหนังสีน้ำตาลสภาพที่ยังดูดีอยู่ในกองขยะนั่น ผมตรงดิ่งไปอย่างบริเวณนั้น
ก่อนจะคว้ามันขึ้นมา แต่แล้ว เด็กหนุ่มคนหนึ่งก็คว้าเสื้อนั้นจากมือผมไปทันที ด้วยความตกใจผมมองไปทางเขาทันที
ของในที่นี้เป็นของฉัน... อย่ามาหยิบก่อนได้รับอนุญาตซิ ไอ้หนูเขากล่าว ชายคนนี้ท่าทางน่าสงสัย แต่สถานการณ์
ตอนนี้ที่ผมเป็นผู้มาเยือน ผมคงจะดูน่าสงสัยกว่าเป็นแน่แท้ เขาสวมหมวกสีน้ำตาลเก่า ชุดดูโทรมกว่าเสื้อหนังในมือ
มากนัก ดูเหมือนว่าสายตาของผมจะพร่าลงอีกครั้งหนึ่ง... ก่อนจะสิ้นสติไป...อีกครั้ง...
วันต่อมา...
หนังสือพิมพ์ลงข่าวอีกครั้งในเรื่องคดีฆาตกรรม ชายในภาพประกอบข่าว มีแผลใหญ่ที่หน้าท้อง ตั้งแต่ส่วนเอวลงไปถูกแบ่ง
ส่วนออก ไม่ต่างกับแขนทั้งสองข้างที่ขาดออกจากลำตัว จากสภาพปากแผลดูเหมือนว่า แขนสองข้างนี้จะถูกฉีกออก
สภาพศพไม่ต่างจากการถูกสัตว์ร้ายกระทำแม้แต่น้อย เนื้อความข่าวก็ตกลงในใจความที่หาคนร้ายไม่ได้ และทางตำรวจ
จะเร่งสืบสวนต่อไป...
หน้าสถานีตำรวจ
ไม่ทราบว่าผู้กองมีความเห็นอย่างไรกับคดีนี้ครับ
ที่เขาว่าคดีไม่มีความคืบหน้าเลยนี่เป็นจริงเหรอค่ะ?
ทางตำรวจจะปิดคดีในสภาพอย่างนี้เหรอครับ
ชายในชุดราชการถูกยิงคำถามจากนักข่าวมากมายนับไม่ถ้วนจน สีหน้าของเขาดูจะรำคาญในสถานการณ์เช่นนี้
เขาค่อยๆแหวกฝ่าฝูงชนไม่ตอบคำถามใดๆทั้งสิ้นและขึ้นรถตำรวจไปในทันที
สีหน้าดูอารมณ์ไม่ค่อยดีเลยนะครับผู้กองเรย์ชายคนหนึ่งซึ่งทำหน้าที่ขับรถเอ่ยถามผู้กองที่ถอนหายใจอยู่เบาะหลัง
แกไม่ลองมาเป็นผู้กองแทนฉันบ้างล่ะ หมวดไรนายตำรวจยศสูงกล่าวประชดและทำท่าจะนอน
แหม... เงินเดือนก็พอๆกัน แต่งานมันหนักกว่าผมไม่เอาหรอก ไม่คุ้มค่าฮ่าๆๆไรกล่าวพร้อมขับรถออกจากฝูงชนไป
ทางด้านโรงพิมพ์แห่งหนึ่ง
ให้ตายสิ ใช้ไม่ได้เลยนะ... แค่ไปหาข้อมูลข่าวมายังทำไม่ได้ นี่น่ะเหรอเหยี่ยวข่าวของสำนักพิมพ์เรา...ชายแก่คนหนึ่ง
ตะคอกเสียงดังใส่เด็กหนุ่มที่ทำท่าขยาดกับน้ำเสียงดุดันนั่น
ก็ผู้กองจอมอู้นั่นมันไม่ให้ข่าวสารมานี่ครับ...ทำไงได้เด็กหนุ่มกล่าวอ้างสาเหตุอย่างไร้ความรับผิดชอบเล็กน้อย
หึ...แกก็ไปหาทางให้มันบอกนายให้รู้ถึงไส้ถึงพุงของคดีนี้มาซิ ฉันมีรางสังหรณ์ว่าคดีนี้มันจะทำเงินให้เรา...หึหึหึ
ครับ ผอ. เด็กหนุ่มรับคำก่อนจะหันหลังให้ชายแก่พร้อมถอนหายใจเฮือกใหญ่และออกจากห้อง ผอ. ไป
เป็นไงบ้างล่ะ เจอเจ้าแก่โฮอิจิบ่นชุดใหญ่เลยนะ เจเนะคุงชายหนุ่มวัยกลางคนกล่าวกับเด็กหนุ่มที่เพิ่งถูกบ่นมา
ขณะที่อ่านหนังสือพิมพ์อยู่บนโต๊ะทำงาน
เฮ้อ... ก็ท่าน ผอ. ให้หาทางหาข่าวมาให้ได้ สงสัยผมคงต้องเจอศึกหนักเลยครับ รุ่นพี่เกมเขากล่าวอย่างท้อใจ
เฮ้ๆ ถ้าเจ้าผู้กองสคัลน่ะจะตีซี้เอาข่าวคงยาก แต่หมวดไร เพื่อนมันน่ะ ซื่อบื่อดี ไปหาข่าวกับมันดีกว่านะเกมแนะนำ
งั้นเหรอครับ ขอบคุณครับรุ่นพี่เจเนะโค้งตัวขอบคุณก่อนจะคว้ากล้องถ่ายรูปพร้อมสมุดโน็ตบนโต๊ะตนไปทันทีอย่างร่าเริง
มืดมิดเหลือเกิน... ดูเหมือนผมจะกลับไปเยี่ยมท่านพญายมมาอีกแล้วสินะ นี่ผมไม่ได้พี้ยานะ ฮะๆ
ผมตื่นขึ้นด้วยความงัวเงียพอสมควร ดูเหมือนแสงสีจะสว่างไปทั่วสถานที่นี้ไม่ใช่น้อย หนุ่มสาวอยู่เต็มที่นี่ไปหมด
ไม่เว้นแม้แต่เครื่องดื่มมึนเมาที่อยู่คู่ทุกโต๊ะในที่นี้ ผมพอรู้ว่ามันคือผับนั่นเอง แต่ปัญหาคือผมมาที่นี่ได้อย่างไรมากกว่า
ผมค่อยๆเดินโซซัดโซเซไปมาเพื่อจะออกจากที่นี่ ระหว่างทางก็กระแทกผู้คนจนคนรอบๆจ้องมองผมด้วยสายตาอาฆาต
แต่ก็นะ สภาพของผมมันไม่ต่างจากคนเมาเลย... มันควบคุมตัวเองไม่ได้
เฮ้ย!! แกน่ะ... เจ๋งมาจากไหนวะ กล้าดียังไงมาเหยียบรองเท้าข้าวะชายหนุ่มร่างใหญ่ข่มผมทันที ทันทีที่พบว่าเท้าของ
ผมเหยียบเท้าของเขาอยู่นั้นเอง ผมตั้งใจจะพูดขอโทษแต่ดูเหมือนผมจะพูดอะไรไม่ออกเลยในตอนนี้...
อยากมีเรื่องสินะ...เขากล่าวพร้อมหักข้อมือดัง บรรยากาศในผับจากเสียงดังโหวกเหวกกลายเป็นเงียบงันไปทันที
ผั่ก!! ร่างของผมปลิวว่อนไปกระแทกโต๊ะข้างๆทันทีจนสิ่งของบนโต๊ะไม่ว่าแก้วหรือขวดเหล้าต่างแตกกระจายบนหัวผม
ของเหลวสีแดงเริ่มไหลย้อยหลงมาเหนือศีรษะผมอีกครั้ง... แล้วนั่นทำให้โสดประสาทส่วนหนึ่งของผมรื้อฟื้นอะไรบาง
อย่างขึ้นมา...
ถ้าคุณเคยดูหนังหรือละคร ในฉากที่ย้อนอดีตภาพมันจะดูแปลกตาไปด้วยโทนสีหรือความมัวหมองพร่าบาง...
มันไม่ต่างกัน... ผมสัมผัสได้วานี่คือสิ่งที่ผมเคยกระทำมา
ในซอกซอยของตึกสูง
ผลั่ก.... ผลั่ก! ผลั่ก... ผลั่ก! หมัดของผมซัดกระหน่ำลงบนร่างชายหนุ่มที่มือกำแน่นด้วยเสื้อหนังสีน้ำตาล
เขาดูจะหมดสติแล้วจะแรงหมัดของผมที่ปล่อยลงบนใบหน้าสกปรกของเขา ก่อนที่มือขวาที่กำเสื้อหนัง
ที่ผมหมายตาจะค่อยๆคลายออก ผมกางมือออกกว้างขณะที่ยืนคร่อมร่างของเขาอยู่ และง้างแขน
ก่อนจะใช้มือทะลวงหน้าท้องของเขาเข้าไปคว้าลำไส้ของเขาออกมา มือขวาของผมเต็มไปด้วยเลือดสดๆ
ดวงตาของชายคนนั้นเบิกกว้าง ปากของเขาเปิดออกเหมือนจะส่งเสียงออกมาด้วยความเจ็บปวดแต่มันก็ไร้ซึ่ง
แว่วเสียงใดๆ บรรยากาศยังคงเงียบสงบเหมือนเดิม ผมคว้าร่างของเขาขึ้นมาพร้อมดึงแขนทั้งสองข้างของเขาออก
ควั่ก...!! เสียงนี้ดังขึ้นชั่วขณะก่อนที่ของเหลวสีแดงจะพุ่งกระฉอกออกจากปากแผลทั้งสองข้าง
ดวงตาองผมตอนนี้เหมือนจะถูกชโลมไปด้วยสีแดง... ความซุกซนของแขนทั้งสองของผมยังไม่จบลง มันจับร่างของ
ชายคนนั้นแยกส่วนตั้งแต่ต้นเอว จนเส้นเลือดบริเวณนั้นพ่นของเหลวสีแดงใส่พื้นบริเวณรอบเป็นวงกว้าง นอกจากมือ
ทั้งสองข้างแล้ว ดูเหมือนจะไม่มีส่วนไหนของผมที่เปื้อนเลือดนี้แล้ว...
และผมก็ได้คว้าเสื้อหนังนั่นมาแล้วจากไปอย่างสงบเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ท่ามกลางความเงียบ...
กลับมาในภาพปัจจุบันที่ผมกำลังจะประสบกับเหตุร้าย สัญชาตญาณของผมก็ถูกปลุกขึ้นอีกครั้ง
หมับ!! มือขวาของผมคว้าคอของชายหนุ่มที่พุ่งกระโจนของผมได้ทันที ดวงตาของผมค่อยๆเปิดออก และจ้องเขม้งไป
ยังเป้าหมายที่ผมจะเรียกมันว่า เหยื่อ สายตาของผู้คนรอบข้างเริ่มเกิดความหวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัด...
พวกเขารีบหนีออกไปจากสถานการณ์นี้อย่างรวดเร็ว ชายหนุ่มที่ผมคว้าคอก็พยายามสะบัดแขนของผมออก
ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยคำวิงวอนขอร้องผม ถึงเขาจะเอ่ยปากพูดมาอย่างไร ผมคงไม่รับรู้หรอก เพราะตอนนี้
ผมได้ยินแค่เพียงเสียงหัวใจของเขาที่เต้นระรัวด้วยความหวาดกลัวเท่านั้น..
มือซ้ายที่ว่างงานของผมเริ่มตอบสนองต่อสิ่งเล้าเบื้องหน้า ที่ปลุกให้มันเข้าไปหา เล็บมือของผมเริ่มยาวขึ้นก่อนที่มัน
จะทิ่มทะลวงอกซ้ายของชายหนุ่มเข้าไป ดวงตาของเขาเปิดออกกว้างไม่ต่างจากเหยื่อรายที่แล้วทีผมพบ
เสียงหัวใจยังคงเต้นระรัวอยู่ ก่อนที่มือซ้ายของผมจะดึงมันออกมา
พรวด!! เลือดสีแดงพุ่งออกมาจากเส้นเลือดที่ขมวดอยู่ในร่างกายของเขา หัวใจสีแดงสดที่คว้าออกมายังคงเต้นระรัว
และลดความถี่ลงตามจังหวะเข็มนาฬิกา และหยุดเต้นพร้อมๆกับเปลือกตาของชายหนุ่มที่ปิดสนิท...
เช้าวันต่อมา ตำรวจได้รับแจ้งเรื่องและเข้าตรวจสอบผับแห่งนี้ทันที...
ผู้เห็นเหตุการณ์ให้การณ์ถึงสภาพในตอนนั้นทั้งหมดรวมทั้งรูปพันธุ์สัณฐานของผมทั้งหมด แน่นอนจากการตรวจสอบ
ตำรวจไม่พบใครเป็นที่หน้าสงสัย เพราะคำให้การของพยานนั้นไม่ตรงกันซักรายในเรื่องของคนร้าย แต่สภาพจิตใจ
ของแต่ละคนกลับตกอยู่ในห้วงหวาดพะวงเหมือนกันหมด...
บ้าชิบ... หลักฐานที่มีก็ไม่พบอะไรเลย...สคัลโวยวายพร้อมมองไปรอบๆสถานที่เกิดเหตุ
ใจเย็น... จากสภาพศพนี่ เหมือนคดีที่แล้วไม่มีผิดนะ นี่แหละเบาะแส...ไรกล่าวพร้อมวินิจฉัยสภาพโดยรอบ
หึ... คดีที่แล้วมันว่าชวนฉงนแล้วนะ แต่คดีนี้มีทั้งพยาน แต่คำให้การกลับไม่ตรงกันเลยซักรายสคัลอธิบาย
คงเป็นเพราะแสงไฟในผับไง... มันมืดมัว และไฟที่ใช้ก็ส่องมั่วซั่วไปหมด...ไรออกความเห็น
ช่างมันเถอะ... เรื่องคดีก็สุดจะตัน ออกไปก็ต้องเจอพวกนักข่าวดาหน้าเข้ามาอีกแน่นอน...สคัลถอนหายใจ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก!! บานประตูของหอพักเล็กๆแห่งหนึ่งถูกเคาะเรียกจากบุคคลภายนอกจนเจ้าของห้องต้องออกไปดู
ขอโทษนะค่ะ ที่นี่ใช่สำนักงานนักสืบอิวาโมโตะหรือเปล่าค่ะเด็กสาวกล่าวหลังจากประตูถูกเปิดออก
เอ่อ...อืมครับ... เชิญข้างในดีกว่าครับเด็กหนุ่มกล่าวพร้อมรับเด็กสาวเข้ามา
ดิชั้น... รีช่า วาเลนไทน์ค่ะ... ได้ยินมาว่าคุณรับงานที่ลึกลับไม่ว่าจะยังไงก็แถลงไขมาได้หมดรีช่ากล่าว
ครับ ผม นพ อิวาโมโตะ เป็นนักสืบ... มีเรื่องอะไรล่ะครับนพกล่าวพ้อมนั่งเต๊ะท่าอยู่บนเก้าอี้ตัวโปรดที่ดูใหญ่เป็นพิเศษ
เอ่อ...คุณคงทราบเรื่องคดีที่เกิดขึ้นตอนนี้รีช่ากล่าวนำ
หืม!?... คดีฆาตกรรมที่หาคนร้ายไม่ได้สินะ...นพกล่าวเหมือนสุนัขแสนรู้ที่รับรู้ถึงความต้องการของเจ้าของได้อย่างว่องไว
รู้ได้ไงค่ะเนี่ย... คือว่า ดิฉันคิดว่าคดีนั้นและคดีในผับน่ะน่าจะเป็นคดีเดียวกัน...รีช่ากล่าว
ครับ... ผมก็คิดอย่างนั้น จากสภาพศพของเหยื่อแล้ว เป็นการกระทำที่ทารุณเกินมนุษย์เลยที่เดียว...
เหรอค่ะ.... งั้นดิฉัน...รีช่าทำสีหน้าเบื่อๆก่อนจะทำท่าจะลุกขึ้น
เดี๋ยวสิครับ...นพกล่าวรั้งเธอเอาไว้
เงินสินะค่ะ...เธอทำท่าจะควักเงินจากกระเป๋าสะพายทันที
ไม่ใช่หรอกครับ... เงินมันไม่ใช่ประเด็นหลักในตอนนี้... ผมว่าคุณคงไม่ได้มาหาผมหรือ ที่ตระเวนไปตามสำนักงานนักสืบ
ต่างๆเพียงแค่ถามว่าที่คุณคิดความเห็นตรงกับเขาไหมหรอกนะครับ... มันคงมีอะไรที่ลึกกว่านี้... เช่นว่าคนรู้จักคุณเป็น
เหยื่อ... หรือได้รับจดหมายขู่ และ... คุณสงสัยว่าคนรู้จัก และดูท่าจะสนิทสนมจะเป็นคนร้าย...นพกล่าว
คุณ....!?รีช่าทำสีหน้าตกใจ
ดูจากท่าทางทีกังวลใจของคุณ มันน่าจะมีอะไรที่ต้องการนักสืบที่รับไว้ใจเพื่อรับฟังสินะครับ...
ค่ะ... รีช่าพยักหน้าพร้อมนั่งลงอีกครั้ง คือเรื่องมีอยู่ว่า...
นพรอรับฟังคำพูดจากปากรีช่าอย่างใจจดใจจ่อ
ฉันคิดว่า คดีศพของสึคุมิ ฮายะ ที่หายไปน่ะ จริงๆไม่ใช่หาย ฉันคิดว่าเขายังไม่ตาย...เธอกล่าวอย่างจริงจัง
งั้นเธอก็คือเด็กสาวที่พาเขามาส่งโรงพยาบาล และอยู่เฝ้าเขาจนหมอวินิจฉัยว่าเสียชีวิตสินะ....
ค่ะ.... แล้วดิฉันก็คิดว่า.... เขาน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีทั้งสองที่เกิดขึ้นขณะนี้...รีช่ากล่าว
งั้นเหรอครับ... จากปากแผลสินะ...นพพูดถึงสิ่งที่ทำให้เธอคิด
ค่ะ... ฮายะก็มีบาดแผลเช่นเดียวกับเหยื่อทั้งสองในคดีนี้....ไม่มีผิดเลย...รีช่ากล่าว...
โปรดติดตามตอนต่อไป...